5 มิลลิกรัม ใน 1 วัน แต่จังก์ฟู้ดมีปริมาณโซเดียมเยอะ ถ้ากินมากก็จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ถึงแม้ว่าอาหารจังก์ฟู้ดไม่ค่อยมีประโยชน์ แถมยังก่อโทษกับร่างกายด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรกินบ่อยๆ อาจจะเดือนละครั้งก็พอ แต่ถ้าจะกินให้ได้คุณค่าก็ทำได้ไม่ยาก เช่น ถ้ากินพิซซ่าควรเลือกที่มีชีสน้อยๆ มีผัก พริกหวาน เห็ด สับปะรด มะเขือเทศ เพื่อช่วยเพิ่มใยอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ ไม่สั่งน้ำอัดลม แต่สั่งน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้สดแทน ถ้ากินไก่ทอดหรือพิซซ่า ควรกินสลัดผักเพื่อให้ได้รับวิตามินและใยอาหารเพิ่ม แต่ต้องเป็นน้ำสลัดไขมันต่ำและน้ำสลัดไม่มาก เป็นต้น
ทำให้แก่เร็ว ได้ชื่อว่าเป็นอาหารขยะ เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความอ้วน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า มันยังทำให้เราแก่เร็วขึ้นด้วย! นั่นก็เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำตาล แป้ง และสารกันบูดทั้งหลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สารอินซูลีนที่อยู่ในร่างกายเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งไปยับยั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ก่อให้เกิดการเร่งการเจริญเติบโตเกินไป พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำให้แก่เร็วขึ้น ผิวคล้ำเสียได้ง่ายขึ้น ริ้วรอยหรืv กาเริ่มถามหา นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดกระบวนการ Glycation ที่จะไปทำลายคอลลาเจนในร่างกายเราโดยตรง ทำให้คอลลาเจนเกิดภาวะแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึงกระชับอย่างที่สาว ๆ ปรารถนา 2. รอบเอวขยาย ในกิจวัตรประจำวันของสาว ๆ หลายคนชอบทานอาหารจังก์ฟู้ด ดื่มน้ำอัดลมเป็นชีวิตจิตใจ นั่นแหละค่ะ สาเหตุหลักเลย เนื่องจากในกรรมวิธีการผลิตอาหารขยะจะมีจำนวนของโซเดียม หรือ เกลือแร่ ชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอยู่มากเกินความต้องการของร่างกายมนุษย์ และโซเดียมที่ว่านี้จะทำให้เราเกิดอาการ "บวมน้ำ" โซเดียมทำให้เกิดอาการบวมน้ำอย่างไร? อาหารประเภทที่มีโซเดียมเป็นส่วนผสมอยู่สูงจะดูดซับน้ำออกจากร่างกายเราเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดแคลนน้ำและต้องเร่งผลิตน้ำออกมาชดเชยส่วนที่ถูกดูดซึมไปอย่างรวดเร็ว และยิ่งในน้ำอัดลมด้วยแล้ว มันยิ่งไปทำปฏิกริยากับฟองอากาศยิ่งทำให้แย่ลง นั่นทำให้คุณจะบวมบริเวณหน้าท้อง 3.
ข้อดี 1. ช่วยประหยัดเวลา แน่นอนว่าเวลารีบ ๆ ฟาสต์ฟู้ดถือเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของใครหลาย ๆ คน เพราะสะดวกทันใจแถมยังอร่อยสุด ๆ เหมาะกับการใช้ชีวิตที่รีบร้อนของสังคมสมัยนี้ เพราะแบบนี้หลายคนจึงเต็มใจจะโทรสั่งแฮมเบอร์เกอร์หรือพิซซ่ามานั่งกินไปทำงานไปที่โต๊ะกันเยอะแยะ 2. เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบ จุดเด่นของฟาสต์ฟู้ดอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่เลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบนี่แหละ เช่น ถ้าคุณทำพิซซ่าทานเอง คุณอยากจะใส่เครื่องอะไรโรยหน้าก็ได้ตามใจชอบ ยิ่งไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้ต่อให้ไม่ทำอาหารเองที่บ้าน บางร้านก็มีบริการให้คุณเลือกใส่เครื่องได้ตามใจชอบเช่นกัน 3. แบบที่มีประโยชน์กับร่างกายก็มีเช่นกัน จากการที่ทุกวันนี้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ก็เลยทำให้ร้านต่าง ๆ หันมาเพิ่มตัวเลือกในการทานฟาสต์ฟู้ดแบบเพื่อสุขภาพคอยเอาใจลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากดูแลตัวเองและอร่อยกับฟาสต์ฟู้ดด้วยในเวลาเดียวกัน ก็ควรเปลี่ยนมาเลือกใส่เครื่องปรุงที่ดีมีประโยชน์กับร่างกายของคุณมากขึ้น เช่น ใช้ขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาวจะดีกว่า 4. ราคาประหยัด อาหารฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าพวกอาหารทั่วไปอยู่แล้ว (บางประเภท) เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการจะเก็บเงินเป็นพิเศษ และเพราะแบบนี้เองร้านฟาสต์ฟูดถึงมีคนต่อคิวอยู่เสมอเพื่อให้ได้กินอาหารที่ทั้งอร่อยทั้งประหยัด ข้อเสีย 1.
1. ) แฮมเบอร์เกอร์ ส่วนใหญ่ใส่สารปรุงรส MSG (Monosodium Gutamate) ที่ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ ส่วนเครื่องปรุงรสของเบอร์เกอร์จำพวกพริก กะหล่ำปลี มะเขือเทศ ล้วนใช้สารก่อมะเร็งจากเกลือเคมีกำมะถัน เพื่อควบคุมความสดของผัก 2. ) ฮอทด็อก มักจะใส่สารไนไตรท์ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีไขมันที่มีสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนำไปปิ้งย่างจะเกิดสารพิษชื่ออะคริลิไมด์ ซึ่งเป็นอีกสารหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งและทำลายประสาท 3. ) เฟร้นช์ฟรายหรือมันฝรั่งทอด การทอดในอุณหภูมิที่สูงทำให้มีสารอะคริลิไมล์ และน้ำมันที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งจะเกิดการออกซิไดซ์ ที่สำคัญมันฝรั่งมีกลีซีมิคอยู่สูงมาก ซึ่งจะเปลี่ยนมันฝรั่งที่เรากินเข้าไปนั้นเป็นน้ำตาลได้เร็วมาก กล่าวคือกินมันฝรั่งทอดหนึ่งหัว จะมีน้ำตาลเท่าๆกับเค้กช็อคโกแลตชิ้นโตๆเลยทีเดียว 4. ) คุกกี้ช็อกโกแลต การกินคุกกี้ช็อกโกแลตบ่อยๆ จะเพิ่มความกระหายน้ำตาลในร่างกายภายใน 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งการที่ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สูงเกินไป จะส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอยเร็วขึ้น 5. ) พิซซ่า ผิวหน้าพิซซ่าที่อบด้วยอุณหภูมิที่สูง อาจมีสารอะคริลิไมล์เกิดขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มหน้าไส้กรอกยังทำให้มีความเสี่ยงสูงจากสารไนไตรน์ สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัว 6. )
ผศ. ดนิตา ภาณุจรัส ภาควิชาเภสัชกรรมชุมชน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร - END -
เผยแพร่: 15 ม. ค.
บอล วัน นี้, 2024 | Sitemap