เข้าสู่ปีใหม่ทีไรหลายคนมักจะตั้งเป้าหมาย New Year's Resolution ลงมือทำสิ่งดี ๆ พัฒนาตัวเอง ถ้าปีที่แล้วยังทำไม่สำเร็จ ก็มาลุยกันต่อในปีนี้ ขณะที่บางคนอาจกำลังลุ้นโบนัสกันตัวโก่ง แต่ไม่ว่าคุณจะมีกิจกรรมมากมายแค่ไหน สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมเลยคือการยื่นภาษี ซึ่งเป็นหน้าที่ของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราที่ต้องวางแผนให้รอบคอบ เช็กให้ชัวร์ว่ารายได้ของทั้งหมดในปี 2562 ต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ เพื่อจะนำไปยื่นภาษีในปี 2563 นี้ และสิทธิ เข้าสู่ปีใหม่ทีไรหลายคนมักจะตั้งเป้าหมาย ลดหย่อนภาษี ที่แตกต่างจากปีอื่น ๆ มีอะไรบ้าง มาอัปเดตเงื่อนไขยื่นภาษีปี 2563 พร้อมกันเลย ใครต้องยื่นภาษีบ้าง? บุคคลที่มีรายได้ทุกคน ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งแม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็ต้องยื่นแบบภาษีประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 1 ม. ค. – 31 มี.
ศ. 2559 มีประกาศพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร พ. 2558 พอสรุปได้ตามภาพข้างล่างนี้ มาตรการนิรโทษกรรมและลดอัตราภาษี สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
สำหรับใครที่มีรายได้จากเงินเดือนและโบนัส โดยไม่มีรายได้ประเภทอื่น ให้เตรียมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) พร้อมเอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ให้รีบยื่นแสดงภาษีให้เร็วที่สุด ซึ่งเปิดให้ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม. 63 – 31 ส. 63 โดยยื่นได้หลายช่องทาง ได้แก่ ยื่นแบบแสดงภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพากร ยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร ซึ่งจะสามารถยื่นได้ถึงวันที่ 31 ส. 63 ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน เมื่อได้ข้อมูลอัปเดตการยื่นภาษีในปีนี้ไปแล้ว หวังว่าจะทำให้ผู้อ่านมีความเข้าใจในเรื่องของภาษี หลักการคำนวณ และการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนและใช้สิทธิได้คุ้มค่า จ่ายภาษีในอัตราที่ถูกลงและอาจได้รับเงินคืนอีกด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนอย่าลืมศึกษาและใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของตัวเองกันให้เต็มที่นะครับ
ก่อนที่จะไปเช็กว่า เราสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบริจาคเท่าไหร่ คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า คุณมีรายได้ตลอดทั้งปีกี่บาท ตัวคุณเองมี ค่าลดหย่อน อะไรที่สามารถใช้ได้บ้าง และสำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องรู้ว่าหลักการในการคำนวณภาษี เช่น ถ้าคุณมีรายได้จากงานประจำทางเดียว สูตรการคำนวณภาษี คือ เงินเดือนทั้งปี – ค่าใช้จ่าย 50% ของเงินเดือนทั้งปี แต่ไม่เกิน 100, 000 บาท – ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60, 000 บาท – ค่าลดหย่อนอื่นๆ (ถ้ามี) = เงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี จากนั้นนำ เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีที่ต้องเสีย = ภาษีที่ต้องจ่าย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เราสามารถบริจาคลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
ให้ใช้บันทึกหรือหนังสือใดๆ ที่เป็นหลักฐานแสดงได้ว่าบริจาคเมื่อใด ผู้ใดบริจาค บริจาคแก่ผู้ใดและจำนวนเงินเท่าใด เลขตู้: 73/37714 ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020
บอล วัน นี้, 2024 | Sitemap